ฟ้าร้องยาาาาาว

ฟ้าร้องยาาาาาาาาาว เขาเจ็บปวดไหมหนอ ???

=================================

โพธาราม ราชบุรี ๑๗๕๐น. วันนี้ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๖ ร้องต่อเนื่องยาวนาน ถึงประมาณ ๑๘๓๐ น. ฟ้าเขาเป็นอะไรกัน

ด้วยว่า วันนี้ นอนป่วยอยู่ทั้งวัน ลืมตามาในรอบยาที่ ๓ ประมาณเกือบๆ ๕ โมงเย็นนี้ ฟ้ามืดไปแล้ว เหมือนว่า ๖ โมงกว่าแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ มองไปที่นาฬิกาข้างฟ้าห้อง ก็มองไม่ถึงแล้ว มันมืดไปหมด แต่นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ ๕โมงเย็น ก็ยังไม่ดัง

ไม่ได้ลุกขึ้นมาดูเมฆ แต่ก็เดาเอาได้ว่า น่าเป็น Cumulonibus ก้อนใหญ่ หลายก้อนซ้อนๆกันอยู่,,, หลายชั้น หลายความสูง

ภาวะลมพายุ ช่วงนั้นแรงมาก หมุนวนมาจากรอบทิศ ไม่อยากออกไปนอกห้องเรียน ให้กิ่งไม้มันหล่นใส่หัว ,,ส่วน ที่กลดธุดงค์ท้ายสวนก็ปกปิดกันฝนสาดไว้แล้ว ทุกมุม,,,

เสียงฟ้าร้อง ในลักษณะประจุไฟฟ้า วิ่งเข้าหากัน ต่อเนื่องไม่หยุด เริ่มตั้งแต่ ประมาณ ๑๗๕๕ น. ตามที่ตั้งใจจดเอาไว้ เพราะ สังเกตุเห็น/ฟัง มาหลายวันแล้ว แต่ช่วงวันอื่นๆ เป็นตอน บ่ายสาม บ่ายสี่ ที่มักจะมีงานยุ่งอยู่มาก จึงไม่ได้สนใจรายละเอียด ตามประสาคนมีแรง ก็ ทำงานอะไรไปเรื่อยๆ ให้มันได้สภาวะธรรมะอยู่กับเราในทุกๆลมหายใจเข้าออกนั้นแหละ,,,

จนถึงเวลา ประมาณ ๑๘๑๕น. ยังไม่มีทีท่าว่าเสียงร้องจะหยุดลง ก้ได้พยายามโทรสอบถามหลายๆท่าน ก็พบว่า ปิดโทรศัพท์มือถือกันหมด,,, เพราะคนหนุ่มคนสาว เขาขู่กันไว้ ในเน็ตว่า คลื่นวิทยุจากดวงอาทิตย์ จะทำลายระบบสื่อสารของคนทั้งโลก ก็ฟังดูเหมือนจะน่ากลัวนะ,,,

จนได้ความสรุปว่า คนรุ่นแม่ รุ่นยาย อายุ ๘๐ ปีขึ้นไป ยังไม่มีใครเคยได้ยินเสียงฟ้าร้องยาวนาน เป็นครึ่ง ชม. อย่างนี้,,,, ฟ้าเขาเจ็บปวดอะไรกันหรือป่าวหนอ,,,,

ในทางกายภาพ ช่วงระยะ ตั้งแต่ ๓ ปีมานี้ และที่หนักหน่อย ก็ ตั้งแต่ปีใหม่มา,,, เรามีสัญญานการปะทุจากแสงเพลิงของดวงอาทิตย์ ออกสู่บรรยากาศบ่อยมาก ถี่มาก และอยู่ในระดับรุ่นแรงปานกลาง,,,, ทำนองเดียวกับ การสั่นไหวของโลก ในระดับ กลางๆ มีจำนวนถี่มากด้วย

ดวงอาทิตย์ ทรงกลดให้เห็นบ่อยครั้ง ,,, แสงออร่า ทางขั้วโลกเหนือก็ส่องประกายสวยงาม,,, โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป,,,

รังสีหลายชนิด ไม่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศของโลกลงมาถึงพื้นได้ แต่เรา และบางคน ก็ สามารถรับรู้ ถึงความร้อนแรง อย่างผิดปกติได้ ดดยเฉพาะผู้คนที่เคยใช้ชีวิตอยู่กลางทะเลทราย หรือกลางทะเลหลวงมาก่อน

ทั้งรังสีบางตัว และประจุไฟฟ้า ถึงถุกสะสมอยู่ ในชั้นบรรยากาศโลกเป็นปกติ โดยมีเมฆเป็นตัวดูดซับประจุไฟฟ้าที่ดี

ครั้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้กัน ก็ ย่อมมีการดูดกัน ผลักดันกันเป้นธรรมดา

นี่ทำให้เกิด ทั้งความร้อนที่ผลักดันให้ ละอองน้ำบนฟ้า เป้นฝนตกลงมาเหมือนฟ้ารั่วได้อย่างหนึ่งแล้ว ยังเกิดเสียงร้องต่อเนื่องกันไปไม่หยุดอย่างยาวนานด้วย 

ทั้งที่วิ่งชนกันอยู่ในระนาบเดียวกัน ในระนาบที่สูงต่ำกว่ากัน และที่สุดคือการระบาย หรือ ผ่า ลงบนพื้นดิน ที่ตลอดเวลา ถึงประมาณ ๑๘๓๐ น.ที่เสียงร้องหยุดสนิทลงจากการร้องทั้งหมดนั้น มีเสียงฟ้าผ่าในระยะที่ได้ยินได้ คำนวนได้ว่า ไม่เกิด ๕ กม.จากรอบตัวอาตมานี้ ประมาณ เพียง ๕ครั้งเท่านั้น,,,

ฟ้าเวลานั้นคือไฟ, เมฆฝนคือน้ำ, พายุคือลม, พื้นโลกคือดิน, บรรยากาศโลกคืออากาสธาตุ, แล้ววิญญานธาตุหละ ใครหนอจะอธิบายให้บุคคลทั่วไปเข้าใจตัวสุดท้ายนี้ได้,,,

สรรพสิ่ง เมื่ออยู่อย่างปกติ,,, ความเงียบ ย่อมเป็นสิ่งที่ปรารถนา,,, เหมือนกันหมด ทั้งมนุาย์ และเทวดา,,,

จะต่างกันก้แต่ที่เกี่ยวข้องกับอบายภูมิแล้ว เท่านั้น ที่ชอบเสียงดัง,,,

โลกกำลังถึงจุดเปลี่ยนแปลง แต่นิพพาน ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่หนีเราไปไหน ไม่มืดมิดแบบในโลกทั้งหลาย มีแต่ความสว่าง สงบ เย็น และแน่นอนว่า ไม่มีเสียงดัง :)

ผู้รู้พึงเพียรภาวนาให้มาก เจริญเมตตาแล้วแผ่ไปรอบทิศให้เป็นพรหมวิหารธรรมด้วยเถิด 

ผู้ที่ต้องการที่พึ่งก็จะได้ที่พึง ผู้ที่พึ่งตนเองได้แล้ว ก็ จักได้หันหน้ามาช่วยกัน ช่วยผู้อื่นต่อไป

รักษาสัตว์ ขนสัตว์ รื้อสัตว์ให้พ้นไปจากภัยในวัฏฏสังสาร ที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้เลย

ฟ้าร้องนาน จึงเป็นสัญญานเตือนเพื่อนร่วมโลกที่ดี ว่าให้ตื่นอยู่นะ และ

สัญญานจากฟ้า ย่อมมีเหตุปัจจัยให้ทราบโดยเจตนาเสมอ

"อย่าประมาทในธรรมทั้งปวง"

ขออำนวยพร
ขอเจริยพร
พระชัย.