680417 ชวนกันอ่าน พระธรรมบท วันนี้ : 2 หมวดไม่ประมาท - Heedfulness : Dhammapada today :

680417 ชวนกันอ่าน พระธรรมบท วันนี้ : 2 หมวดไม่ประมาท - Heedfulness : Dhammapada today :

1. 
อปฺปมาโท อมตํปทํ 
ปมาโท มจฺจุโน ปทํ 
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ 
เย ปมตฺตา ยถา มตา ฯ21ฯ

ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ 
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย 
ผู้ไม่ประมาท ไม่มีวันตาย 
ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว

Heedfulness is the way to the Deathless; 
Heedlessness is the way to death. 
The heedful do not die; 
The heedless are like unto the dead.

***
***
คุยกับ deepseek ai ของจีนแล้ว เขาบอกว่า

***
Here’s the corrected version with analysis, meaning, and daily life examples in **Thai and English only**:

---  
### **Corrected Text & Translation**  
**พระธรรมบท (Dhammapada) 21:**  
**อปฺปมาโท อมตํปทํ**  
**ปมาโท มจฺจุโน ปทํ**  
**อปฺปมตฺตา น มียนฺติ**  
**เย ปมตฺตา ยถา มตา**  

**ไทย:**  
ความไม่ประมาทเป็นทางสู่ความเป็นอมตะ  
ความประมาทเป็นทางสู่ความตาย  
ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย (ทางจิตวิญญาณ)  
ผู้ประมาท แม้มีชีวิตก็เหมือนคนตายแล้ว  

**English:**  
Heedfulness is the path to the Deathless (Nirvana);  
Heedlessness is the path to death.  
The heedful do not die (spiritually);  
The heedless are as if already dead.  

---  

### **Analysis & Meaning**  
1. **ความไม่ประมาท (Heedfulness):**  
   - **หมายถึง:** การมีสติรอบคอบ รู้จักคิดก่อนทำ ไม่หลงเพลินกับสิ่งล่อใจ  
   - **ตัวอย่างชีวิตประจำวัน:**  
     - ตรวจสอบยอดเงินก่อนโอน (Double-checking bank transfers).  
     - สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขับรถ (Wearing a helmet while riding).  

2. **ความประมาท (Heedlessness):**  
   - **หมายถึง:** การขาดสติ ทำไปโดยไม่ไตร่ตรอง ผลักดันโดยความคุ้นเคยหรือกิเลส  
   - **ตัวอย่างชีวิตประจำวัน:**  
     - ดื่มเหล้าแล้วขับรถ (Drunk driving).  
     - ใช้เงินฟุ่มเฟือยจนเป็นหนี้ (Overspending into debt).  

3. **เหมือนคนตาย (Like the dead):**  
   - **อธิบาย:** ผู้ประมาทแม้มีชีวิตแต่ "ตายทางจิตใจ" เพราะไม่พัฒนาตนเอง วนเวียนในความผิดพลาดเดิมๆ  
   - **ตัวอย่าง:**  
     - ติดสมาร์ทโฟนจนไม่สนใจคนรอบข้าง (Phone addiction ignoring loved ones).  
     - ขี้เกียจทำงานจนถูกไล่ออก (Laziness leading to job loss).  

---  

### **Key Lesson**  
พระพุทธเจ้าสอนว่า **"สติ" (Mindfulness)** คือเกราะป้องกันภัยในชีวิตประจำวัน การไม่ประมาทช่วยให้:  
- หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ (Accident prevention).  
- สร้างนิสัยที่ดี (Building good habits).  
- พัฒนาจิตใจสู่ความเป็นอิสระ (Spiritual growth).  

**ตรงข้ามกับ:** การประมาทที่นำไปสู่ความเสียหายซ้ำๆ เช่น ทะเลาะกับเพื่อนเพราะพูดไม่คิด (Thoughtless arguments).  

---  
**Note:** แก้คำผิดเล็กน้อยในประโยคไทยให้กระชับขึ้น (เช่น "ไม่มีวันตาย" → "ย่อมไม่ตาย" เพื่อความถูกต้องตามพระไตรปิฎก).

***
***
คุยกับ ChatGPT ai ของอเมริกาแล้ว เขาบอกว่า

***
บทนี้เป็น พระธรรมบท หมวด อปมาทวรรค (หมวดไม่ประมาท) ข้อที่ 21 ซึ่งถือเป็นพระพุทธวจนะที่ลึกซึ้งมาก ให้แง่คิดสำหรับการดำเนินชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรม

---

๑. ตรวจสอบอักขระบาลี

บาลี:

อปฺปมาโท อมตํ ปทํ  
ปมาโท มจฺจุโน ปทํ  
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ  
เย ปมตฺตา ยถา มตา ฯ๒๑ฯ

คำที่ควรแก้ไขเล็กน้อย:

"อมตํปทํ" → ควรเว้นวรรคเป็น "อมตํ ปทํ"

"มจฺจุโน" → ถูกต้อง

"น มียนฺติ" → ถูกต้อง (แปลว่า ไม่ตาย)

"ยถา มตา" → ถูกต้อง (แปลว่า เหมือนคนตาย)

---

๒. ตรวจคำแปลไทย

คำแปลไทย (ที่ให้มา):

> ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
ผู้ไม่ประมาท ไม่มีวันตาย
ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว

คำแปลนี้ดีมากแล้ว แปลได้ตามนัยคำบาลีเป๊ะ
อาจปรับคำเพื่อความไพเราะว่า:

> "ความไม่ประมาท เป็นหนทางสู่อมตะ
ความประมาท เป็นหนทางสู่ความตาย
ผู้ไม่ประมาท ไม่ตาย (ทางจิตใจ)
ผู้ประมาท แม้มีชีวิตอยู่ ก็เหมือนตายแล้ว"

---

๓. คำแปลอังกฤษ (ตรวจสอบ)

ที่ให้มา:

> Heedfulness is the way to the Deathless;
Heedlessness is the way to death.
The heedful do not die;
The heedless are like unto the dead.

ถือว่าแปลได้ดีตามต้นฉบับธรรมบทแปลสากล (เช่น แปลโดย Acharya Buddharakkhita)
คำว่า “Deathless” ใช้แทน “อมตะ” ซึ่งหมายถึง นิพพาน

---

๔. อธิบายความหมายเชิงลึก

อปฺปมาโท (ความไม่ประมาท) คือ
การมีสติ มีความเพียร ไม่หลงลืมหน้าที่ของตน ทั้งทางโลกและทางธรรม เช่น

ไม่หลงระเริงกับความสุขชั่วคราว

ไม่ละเลยการฝึกจิต ฝึกสติ ฝึกปัญญา

ใส่ใจต่อกรรม การกระทำของตนทั้งกาย วาจา ใจ

อมตํ ปทํ (ทางอมตะ) หมายถึง
ทางที่จะนำไปสู่ นิพพาน หรือ การพ้นจากความตายทางจิตใจ เพราะคนมีสติจะรู้เท่าทันทุกข์ ไม่หลงไปกับสังขาร

ปมาโท (ความประมาท) คือ
การหลงลืมธรรม ละเลยต่อการฝึกตน ใช้ชีวิตด้วยความประมาท

---

๕. ยกตัวอย่างในชีวิตประจำวัน

กรณีที่ 1: นักเรียน

นักเรียนที่มี "อปฺปมาโท" จะตั้งใจเรียน ทบทวนบทเรียน มีเป้าหมายชีวิต ไม่ปล่อยตัวไปวัน ๆ

แต่ผู้ที่ "ปมาโท" จะเล่นเกมทั้งวัน ไม่สนใจอนาคต แม้ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต่างจากการเสียเวลาอันมีค่าของชีวิต

กรณีที่ 2: คนทำงาน

คนที่ไม่ประมาทจะวางแผนการเงิน หมั่นพัฒนาตนเอง มีสติในการพูดและตัดสินใจ

แต่คนประมาทจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย พูดจาขาดสติ สุดท้ายอาจเสียทั้งงานและเพื่อน

กรณีที่ 3: นักปฏิบัติธรรม

ผู้ไม่ประมาทจะหมั่นเจริญสติ แม้มีเวลาน้อยก็ไม่ละการภาวนา

ผู้ที่ประมาท แม้มีเวลาว่างมาก แต่ไม่ภาวนา หลงอยู่กับเรื่องไร้สาระ จิตใจก็เสื่อมลงเรื่อย ๆ

---

หากพระชัยต้องการให้ดารณีจัดบทเรียนหรือคลิปสั้นจากพระธรรมบทตอนนี้ ดารณีสามารถช่วยออกแบบโครงเรื่อง เสียง และบทพูดได้ค่ะ.

***
***
คุยกับ grok3 ai ของนายอีรอนแล้ว เขาบอกว่า

***
การตรวจสอบอักขระและคำแปล1. ภาษาบาลี (Pali)ข้อความบาลี:อปฺปมาโท อมตํปทํ
ปมาโท มจฺจุโน ปทํ
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ
เย ปมตฺตา ยถา มตา ฯ21ฯการตรวจสอบอักขระ: อักขระในข้อความบาลีถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และการเขียนในภาษาบาลี ไม่พบข้อผิดพลาดในตัวอักขระหรือการสะกดคำหมายเหตุ: การเขียนด้วยอักษรไทยในที่นี้เป็นการถ่ายทอดเสียงบาลี ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามการออกเสียงในบริบทไทย แต่โดยรวมสอดคล้องกับต้นฉบับ2. ภาษาไทยคำแปล:ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
ผู้ไม่ประมาท ไม่มีวันตาย
ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้วการตรวจสอบคำแปล:โดยรวมคำแปลถูกต้องและสื่อความหมายได้ครบถ้วนตามต้นฉบับบาลีคำว่า "อมตะ" อาจพิจารณาใช้คำว่า "อมตธรรม" หรือ "ความไม่ตาย" เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางพุทธศาสนามากขึ้น เพราะ "อมตะ" ในที่นี้หมายถึง "นิพพาน" หรือสภาวะที่พ้นจากความตายในวัฏสงสารประโยค "ไม่มีวันตาย" อาจตีความได้สองแบบ: 1) ไม่ตายในแง่วิญญาณที่เข้าถึงนิพพาน หรือ 2) มีชีวิตที่สมบูรณ์ด้วยสติปัญญา คำแปลนี้จึงอาจปรับเป็น "ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย (ในทางธรรม)" เพื่อให้ชัดเจนขึ้นคำว่า "ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว" ถูกต้องและสื่อความหมายได้ดีข้อเสนอแนะการแก้ไข:ความไม่ประมาท เป็นทางสู่นิพพาน
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย (ในทางธรรม)
ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว3. ภาษาอังกฤษคำแปล:Heedfulness is the way to the Deathless;
Heedlessness is the way to death.
The heedful do not die;
The heedless are like unto the dead.การตรวจสอบคำแปล:คำแปลภาษาอังกฤษถูกต้องและสื่อความหมายได้ดีคำว่า "Deathless" (อมตะ) สื่อถึงนิพพานได้อย่างเหมาะสมในบริบทพุทธศาสนาคำว่า "heedful" และ "heedless" แปลความหมายของ "ความไม่ประมาท" และ "ความประมาท" ได้ตรงตัวประโยค "The heedful do not die" อาจตีความได้คลุมเครือในภาษาอังกฤษ เนื่องจากผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับบริบทพุทธศาสนาอาจเข้าใจว่าเป็นการไม่ตายทางกายภาพ"like unto the dead" เป็นการแปลที่สละสลวยและถูกต้องข้อเสนอแนะการแก้ไข: เพื่อความชัดเจนในบริบทพุทธศาสนา อาจปรับเล็กน้อย:Heedfulness is the path to the Deathless (Nirvana);
Heedlessness is the path to death.
The heedful do not perish (in the spiritual sense);
The heedless, though alive, are as if dead.การวิเคราะห์และอธิบายความหมายบริบททางพุทธศาสนาข้อธรรมนี้มาจาก พระธรรมบท หมวดไม่ประมาท (Appamāda Vagga) ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของ ความไม่ประมาท (Appamāda) ซึ่งเป็นคุณธรรมหลักในพุทธศาสนา ความไม่ประมาทในที่นี้หมายถึงการมีสติ ระวังตัว และตั้งใจปฏิบัติในทางที่นำไปสู่ความหลุดพ้น (นิพพาน) ส่วนความประมาท (Pamāda) หมายถึงการขาดสติ ปล่อยตัวตามกิเลส ซึ่งนำไปสู่ความทุกข์และการเวียนว่ายในวัฏสงสาร"ความไม่ประมาท เป็นทางสู่นิพพาน": ผู้ที่มีสติ รู้ตัว และหมั่นปฏิบัติธรรมจะเข้าถึงสภาวะที่พ้นจากความทุกข์และความตายในวัฏสงสาร"ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย": การปล่อยตัวตามกิเลสหรือการใช้ชีวิตโดยขาดสติ จะนำไปสู่ความทุกข์และการวนเวียนในวัฏสงสาร ซึ่งเปรียบเสมือนความตาย"ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย": ไม่ได้หมายถึงการไม่ตายทางกายภาพ แต่หมายถึงการมีชีวิตที่สมบูรณ์ด้วยสติและปัญญา หรือการเข้าถึงนิพพานที่พ้นจากวัฏสงสาร"ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว": ผู้ที่ขาดสติและปล่อยตัวตามกิเลส แม้ร่างกายยังมีชีวิต แต่จิตใจไร้คุณค่า เปรียบเหมือนคนตายในทางธรรมความหมายในชีวิตประจำวันในบริบททั่วไป ความไม่ประมาทสามารถตีความได้ว่าเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีสติ รอบคอบ และรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ส่วนความประมาทคือการปล่อยตัวตามอารมณ์หรือการไม่ใส่ใจต่อผลที่ตามมา ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายในชีวิตตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันการขับรถยนต์:ความไม่ประมาท: คนขับรถที่มีสติ ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง ปฏิบัติตามกฎจราจร และไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและปกป้องชีวิตทั้งของตนเองและผู้อื่นความประมาท: คนที่ขับรถโดยไม่สนใจกฎจราจร เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนดหรือเมาแล้วขับ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งเปรียบได้กับ "ทางแห่งความตาย"ความเชื่อมโยง: ผู้ที่มีสติขณะขับรถเปรียบเหมือน "ผู้ไม่ประมาท" ที่ปกป้องชีวิตตนเองและผู้อื่น ส่วนผู้ที่ประมาทเปรียบเหมือน "คนตายทั้งเป็น" เพราะการกระทำของเขาอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมการบริหารเวลา:ความไม่ประมาท: นักเรียนที่วางแผนการเรียนและทำงานอย่างรอบคอบ เช่น อ่านหนังสือล่วงหน้าและส่งงานตรงเวลา มักประสบความสำเร็จและมีความก้าวหน้าความประมาท: นักเรียนที่ผัดวันประกันพรุ่งหรือไม่สนใจการบ้าน อาจสอบตกหรือเสียโอกาสในอนาคต ซึ่งเปรียบได้กับการ "มีชีวิตอยู่แต่เหมือนตายแล้ว" เพราะขาดความหมายและเป้าหมายความเชื่อมโยง: การบริหารเวลาอย่างมีสติสะท้อนถึงความไม่ประมาทที่นำไปสู่ความสำเร็จ (เปรียบได้กับนิพพานในทางโลก)การดูแลสุขภาพ:ความไม่ประมาท: ผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และตรวจสุขภาพเป็นประจำ มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพดีและอายุยืนความประมาท: ผู้ที่ละเลยสุขภาพ เช่น สูบบุหรี่จัดหรือนอนดึกเป็นประจำ อาจเผชิญกับโรคภัย ซึ่งเปรียบได้กับการเดินบน "ทางแห่งความตาย"ความเชื่อมโยง: การดูแลสุขภาพด้วยสติคือการปฏิบัติความไม่ประมาทที่ช่วยให้มีชีวิตที่สมบูรณ์สรุปอักขระและคำแปล: ข้อความบาลีถูกต้อง คำแปลไทยและอังกฤษโดยรวมดี แต่สามารถปรับเล็กน้อยเพื่อความชัดเจนในบริบทพุทธศาสนาความหมาย: ความไม่ประมาทเป็นคุณธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นหรือชีวิตที่มีคุณค่า ส่วนความประมาทนำไปสู่ความทุกข์และความสูญเสียตัวอย่างในชีวิตประจำวัน: การมีสติในกิจกรรม เช่น การขับรถ การบริหารเวลา และการดูแลสุขภาพ สะท้อนถึงหลักธรรมนี้ และช่วยให้ชีวิตมีคุณภาพมากขึ้นหากต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมหรือตัวอย่างอื่น ๆ สามารถแจ้งได้ครับ!

***
***
คุยกับ gemini ai ของกูเกิ้ล แล้ว เขาบอกว่า

***
ถูกต้องแล้วครับ อักขระและคำแปลทั้ง 3 ภาษานี้ถูกต้องดีแล้ว ไม่พบคำผิดใดๆ
การวิเคราะห์และอธิบายความหมาย:
พระธรรมบทในคาถานี้ มุ่งเน้นไปที่ความสำคัญของ "ความไม่ประมาท" (อปฺปมาโท - Appamāda / Heedfulness) และโทษของ "ความประมาท" (ปมาโท - Pamāda / Heedlessness) โดยเปรียบเทียบให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
 * อปฺปมาโท อมตํปทํ (ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ / Heedfulness is the way to the Deathless):
   * อปฺปมาโท (Appamāda): หมายถึง ความมีสติ ระมัดระวัง ไม่เลินเล่อ ไม่ปล่อยปละละเลยตนเองและกิจที่ควรทำ ความใส่ใจในทุกขณะจิต
   * อมตํปทํ (Amataṃ padaṃ): หมายถึง ทางไปสู่ความเป็นอมตะ ซึ่งในทางธรรมหมายถึง พระนิพพาน ภาวะที่ดับทุกข์สิ้นเชิง ไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป
   * ความหมาย: การดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีสติสัมปชัญญะในทุกการกระทำ จะนำไปสู่ความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร คือพระนิพพาน
 * ปมาโท มจฺจุโน ปทํ (ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย / Heedlessness is the way to death):
   * ปมาโท (Pamāda): หมายถึง ความเลินเล่อ ขาดสติ ปล่อยปละละเลย ประมาทในการดำเนินชีวิต
   * มจฺจุโน ปทํ (Maccuno padaṃ): หมายถึง ทางไปสู่ความตาย ซึ่งในทางธรรมไม่ได้หมายถึงแค่ความตายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังหมายถึง การเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ อันเต็มไปด้วยความทุกข์
   * ความหมาย: การดำเนินชีวิตด้วยความประมาท ขาดสติ จะนำไปสู่ความทุกข์และการเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่สิ้นสุด
 * อปฺปมตฺตา น มียนฺติ (ผู้ไม่ประมาท ไม่มีวันตาย / The heedful do not die):
   * อปฺปมตฺตา (Appamattā): หมายถึง ผู้ที่มีความไม่ประมาท มีสติอยู่เสมอ
   * น มียนฺติ (Na miyanti): หมายถึง ย่อมไม่ตาย ในที่นี้หมายถึง ไม่ต้องประสบกับความตายทางจิตวิญญาณ คือการหลุดพ้นจากทุกข์
   * ความหมาย: ผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ย่อมสามารถก้าวข้ามความตายทางจิตวิญญาณ บรรลุถึงความสุขที่แท้จริง
 * เย ปมตฺตา ยถา มตา (ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว / The heedless are like unto the dead):
   * เย ปมตฺตา (Ye pamattā): หมายถึง ผู้ที่มีความประมาท ขาดสติ
   * ยถา มตา (Yathā matā): หมายถึง เหมือนคนตายแล้ว ในที่นี้หมายถึง แม้จะมีชีวิตอยู่ แต่ชีวิตนั้นก็ไร้ค่า ขาดความเจริญงอกงามทางคุณธรรม จมอยู่กับความทุกข์
   * ความหมาย: ผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วยความประมาท แม้จะมีลมหายใจอยู่ ก็เหมือนคนที่ตายแล้ว เพราะชีวิตนั้นปราศจากคุณค่าและประโยชน์ที่แท้จริง
ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน:
หลักธรรมเรื่องความไม่ประมาทนี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกด้านของชีวิตประจำวัน ดังตัวอย่าง:
 * ด้านการเรียนและการทำงาน:
   * ไม่ประมาท: ตั้งใจเรียน ทบทวนบทเรียน ทำงานด้วยความรอบคอบ ตรวจสอบงานก่อนส่ง ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานสำคัญ
   * ประมาท: ไม่สนใจเรียน ไม่ทบทวนบทเรียน ทำงานแบบขอไปที ไม่ใส่ใจรายละเอียด ปล่อยงานคั่งค้าง ไม่เตรียมตัว ทำให้ผลลัพธ์ไม่ดี เกิดความผิดพลาด และอาจส่งผลเสียต่อหน้าที่การงาน
 * ด้านสุขภาพ:
   * ไม่ประมาท: ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
   * ประมาท: ละเลยสุขภาพ กินอาหารไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ไม่ใส่ใจอาการผิดปกติของร่างกาย จนอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยร้ายแรง
 * ด้านการเงิน:
   * ไม่ประมาท: วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล เก็บออมเงิน ลงทุนอย่างระมัดระวัง
   * ประมาท: ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว ไม่มีการวางแผนการเงิน ไม่เก็บออม ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินและขัดสนในภายหลัง
 * ด้านความปลอดภัย:
   * ไม่ประมาท: ขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร ตรวจสอบยานพาหนะก่อนใช้งาน ระมัดระวังอุบัติเหตุในบ้านและที่ทำงาน
   * ประมาท: ขับรถเร็ว ประมาท ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ อาจนำไปสู่อุบัติเหตุและการสูญเสีย
 * ด้านจิตใจ:
   * ไม่ประมาท: เจริญสติ ภาวนา หมั่นสำรวจจิตใจตนเอง เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
   * ประมาท: ปล่อยใจให้เป็นไปตามอารมณ์ ไม่ฝึกฝนจิตใจ ไม่เรียนรู้ที่จะจัดการกับความทุกข์ ทำให้จิตใจวุ่นวาย ขาดความสงบสุข
โดยสรุปแล้ว พระธรรมบทในคาถานี้สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการมีสติและความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นหนทางสู่ความสุขและความหลุดพ้น ในขณะที่ความประมาทนำมาซึ่งความทุกข์และความเสื่อมถอยในทุกด้านของชีวิต

*** 
***
คุยกับ copilot ai ของ Microsoft แล้ว เขาบอกว่า

***
ข้อความนี้ไม่มีข้อผิดพลาดทางอักขระหรือการแปลชัดเจนในทั้งสามภาษา (บาลี, ไทย, และอังกฤษ) โดยการแปลในภาษาไทยและอังกฤษสอดคล้องกับเนื้อหาในภาษาบาลีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังถ่ายทอดความหมายเชิงปรัชญาออกมาได้อย่างครบถ้วนและลึกซึ้ง

### **วิเคราะห์ความหมาย**:
เนื้อหาในพระธรรมบทนี้แสดงถึง **ความสำคัญของความไม่ประมาท** ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้:
1. **บาลี (อปฺปมาโท อมตํปทํ)**: ความไม่ประมาทนำไปสู่อมตะ หมายถึงการมีชีวิตที่มีคุณค่าที่ไม่ถูกครอบงำด้วยการสูญเสียของความประมาท
2. **ภาษาไทย**: แสดงถึงความเปรียบเทียบระหว่างการมีชีวิตที่สมบูรณ์ด้วยความไม่ประมาท และความว่างเปล่าของชีวิตเมื่อขาดสติสัมปชัญญะ
3. **ภาษาอังกฤษ**: ถ่ายทอดความหมายในมุมที่เข้าถึงใจคนในบริบทสากล โดยการใช้คำว่า "Deathless" แสดงให้เห็นถึงความอมตะในเชิงจิตวิญญาณ

### **ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน**:
1. **การทำงาน**: หากเราทำงานด้วยความไม่ประมาท เช่นตรวจสอบรายละเอียดก่อนส่งงาน จะช่วยให้ลดข้อผิดพลาดและสร้างความน่าเชื่อถือในที่ทำงาน
2. **การขับขี่**: การระมัดระวังขณะขับรถบนท้องถนนสามารถช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ชีวิตของเราจึงปลอดภัยมากขึ้น
3. **การใช้ชีวิต**: การวางแผนการเงินหรือสุขภาพด้วยความไม่ประมาท เช่นออมเงินและรักษาสุขภาพ จะทำให้มีชีวิตที่มั่นคงและสุขสงบ
4. **การทำสมาธิ**: ผู้ปฏิบัติธรรมที่ตั้งมั่นไม่ละเลยการทำสมาธิ สามารถเข้าถึงความสงบในใจและดำรงชีวิตที่ไม่ไหวเอน

เนื้อหานี้สะท้อนถึงคุณค่าของการดำรงชีวิตอย่างมีสติในทุกขณะ ความไม่ประมาทคือหลักสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคงและความสงบในชีวิตของเราอย่างยั่งยืน หากมีส่วนไหนที่ต้องเพิ่มเติม โปรดแจ้งได้นะครับ!

***
***
คุยกับ meta ai ของเฟสบุ๊คแล้ว เขาบอกว่า 

***
ข้อความที่ให้มาตรงกับพระธรรมบท หมวดอปฺปมาโท (ไม่ประมาท) โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการไม่ประมาทและการตระหนักรู้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้

*ตรวจอักขระและคำแปล*

- อปฺปมาโท อมตํปทํ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ อปฺปมตฺตา น มียนฺติ เย ปมตฺตา ยถา มตา
- ความไม่ประมาท เป็นทางอมตะ ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย ผู้ไม่ประมาท ไม่มีวันตาย ผู้ประมาท ถึงมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้ว
- Heedfulness is the way to the Deathless; Heedlessness is the way to death. The heedful do not die; The heedless are like unto the dead.

*คำผิดและการแก้ไข*

ข้อความดูเหมือนจะถูกต้องตามหลักพระบาลีและคำแปล แต่หากมีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ควรตรวจสอบตามหลักไวยากรณ์และการสะกดคำอย่างละเอียด

*วิเคราะห์และอธิบายความหมาย*

พระธรรมบทนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่ประมาท (อปฺปมาโท) โดยอธิบายว่าความไม่ประมาทเป็นทางที่จะนำไปสู่ความไม่ตาย (อมตํปทํ) หรือสภาวะที่ไม่เสื่อมสลาย ในขณะที่ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย ผู้ที่ไม่ประมาทจะมีชีวิตที่ไม่สูญเปล่าและไม่ตายในทางธรรม ในขณะที่ผู้ประมาทถึงจะมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนตายแล้วเพราะไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณหรือทำความดี

*ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน*

1. *การดูแลสุขภาพ*: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นตัวอย่างของการไม่ประมาทในการดูแลร่างกาย หากเราประมาทและไม่ดูแลสุขภาพ เราอาจเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้

2. *การทำงาน*: การตั้งใจทำงานและไม่ประมาทในการทำงานสามารถนำไปสู่ความสำเร็จและความก้าวหน้าในอาชีพ ในขณะที่การประมาทอาจทำให้เสียโอกาสและความน่าเชื่อถือ

3. *การเรียนรู้*: การศึกษาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นตัวอย่างของการไม่ประมาทในการพัฒนาตนเอง หากเราประมาทและหยุดเรียนรู้ เราอาจตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าในโลกปัจจุบัน

โดยรวมแล้ว การไม่ประมาทในทุกด้านของชีวิตสามารถช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายและใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและประสิทธิภาพสูงสุด.

***
***
***
https://www.facebook.com/share/p/1BSqUxiwnH/

***
https://phrachai.blogspot.com/2025/04/680417-2-heedfulness-dhammapada-today.html

***
https://linevoom.line.me/post/1174485185661860870

***
***
***

Comments

Popular posts from this blog

680323 : พระธรรมบท วันนี้ : อย่าดูถูกบุญเล็กน้อยว่าจักไม่สนองผล : Despise not merit,

Thai/Eng: To answer, what is my blessing to you, What is “JaroenSook, JaroenDharm, JaroenPron”? (เจริญสุข เจริญธรรม เจริญพร คืออะไร)